ตำแหน่ง “นางสาวไทย คนที่ 53” ประจำปี 2565 สวยสง่า ทรงพลัง และเฉลียวฉลาด (Sweet Strong Smart) เปิดตำนานหน้าใหม่ของเวทีประกวดฯ ตรงคอนเซปต์ “Revival of the Original” หรือ “กำเนิดใหม่ไปด้วยกัน” ทุกองศา
ค่ำคืนสุดพิเศษที่ทุกคนรอคอยกับการประกาศ “นางสาวไทย 2565” คนใหม่ ในรอบตัดสิน (Final Competition) ในวันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2565) ซึ่งจัดขึ้น ณ CentralWorld Live ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ อย่างยิ่งใหญ่บนเวทีประกวดนางงามสุดล้ำและถ่ายสดผ่านทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 ให้คนไทยได้ร่วมลุ้นพร้อมกันทั่วประเทศ
บรรยากาศการประกวดรอบไฟนอลเป็นไปอย่างคึกคัก ด้วยเสียงเชียร์จากเหล่าแฟนคลับนางงามที่มาร่วมลุ้นและให้กำลังใจตลอดการประกวด โดยมี อารม์ – กรกันต์ สุทธิโกเศศ และ แพรว – แพรววนิต เรืองทอง รับหน้าที่พิธีกร โดยการประกวดฯเริ่มต้นขึ้นเมื่อเหล่าสาวงามทั้ง 24 คนเปิดตัวด้วยการแสดงสุดอลังการ พร้อมแนะนำตัวทีละคน จากนั้นคณะกรรมการประกาศผลผู้เข้ารอบ 12 คนสุดท้าย ก่อนจะเพิ่มความดีกรีให้เวทีด้วยการอวดเสน่ห์ใน “รอบชุดว่ายน้ำ” และต่อด้วยการประกวด “รอบชุดราตรี” ที่สวยสง่าสะกดทุกสายตา โดยในรอบนี้ คณะกรรมการได้ประกาศผลผู้ผ่านเข้าสู่รอบ TOP 5 โดยสาวงามทั้ง 5 คน ได้แสดงไหวพริบปฏิภาณในการตอบคำถามกันอย่างเฉียบขาด ก่อนจะพักความตื่นเต้นด้วยการอำลาตำแหน่งของ “เมย์ ณัฐพัชร พงษ์ประพันธ์” นางสาวไทย คนที่ 52 ประจำปี 2563
และแล้ววินาทีสุดท้ายที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อพิธีประกาศชื่อ มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ หมายเลข MT16 เป็นผู้ครองตำแหน่ง “นางสาวไทย คนที่ 53” ประจำปี 2565 ที่ชนะใจกรรมการและคนไทยทั้งประเทศ ด้วยความสวยเก๋ มีเสน่ห์ เต็มเปี่ยมด้วยเชาว์ปัญญาและความมั่นใจ นอกจากนั้น เธอยังได้สะท้อนความรักนวัตกรรมและความเป็นไทยตลอดการแข่งขันอีกด้วย นางสาวไทย 2565 ได้รับช่อดอกไม้ วชิรคฑา พร้อมสวมสายสะพาย และมงกุฎ “อิสตรีวิจิตรา (The Adamas) ที่สุดแห่งความเลอค่าที่ อีกทั้งรางวัลเงินสด 800,000 บาท และรางวัลอันทรงคุณค่าอื่น ๆ อีกมากมาย ขณะที่ อัญพัชร์ ปิติประจักษ์วัชรหมายเลข MT06 คว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 วนิดา ดอกกุหลาบ หมายเลข MT18 ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 2 อธิชา เรนนี่หมายเลข MT17 คว้าตำแหน่งรองอันดับ 3 และ ศรณ์ศรฏฐ์ วิทยาเรืองสุข หมายเลข MT01 ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 4 โดยมานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์ ได้นั่งเก้าอี้นางสาวไทย พร้อมกับรองทั้ง 4 ท่ามกลางการแสดงความยินดีจากบรรดาเพื่อนนางงามอย่างท้วมท้น
หลังจากนี้ นางสาวไทย คนที่ 53 ประจำปี 2565 จะร่วมปฏิบัติภารกิจสาธารณะกุศลมากมาย เพื่อเป็นตัวแทนหญิงไทยแห่งยุคสมัยใหม่ ในฐานะภูมิปัญญาแห่งอนาคต รวมถึงเป็นกระบอกเสียงให้กับสังคม ส่งเสริมและยกระดับการศึกษาให้คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ด้อยโอกาสทางศึกษา และเป็นทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอีกด้วย