เข้าพิธีอุปสมบทเพื่อทดแทนคุณพ่อ–แม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับนักร้องหนุ่มค่าย KHAOSAN ENTERTAINMENT “แพท วรยศ บุญทองนุ่ม” โดยพิธีเริ่มขึ้นเมื่อเวลา05.30 น. ของวันนี้(19 มิถุนายน 2564) ที่วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร และเนื่องด้วยสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ที่ระบาดอยู่ในขณะนี้ เป็นเหตุให้เจ้าตัวจัดพิธีบวชแบบเงียบๆและเรียบง่าย มีเพียงคนในครอบครัว และผู้ใหญ่ที่นับถือ รวมถึงเพื่อนในวงพาวเวอร์แพท มาร่วมงานแค่ไม่กี่คน อาทิ ฟ้า ปัณณวิช สุวัฒนานันท์, เปรม วิริทธิ์ธร ธนาวัฒน์ศิริ, เจี๊ยบ กมลชัยเข็มทอง และผู้จัดการวงพาวเวอร์แพท “เท็ดดี้ ณัฐฎ์ณัฐ หิรัญสมบูรณ์”
ในส่วนของพิธีการต่างๆ ถูกจัดขึ้น 2 วัน โดยวันที่ 18 มิถุนายน เวลา 16.00 น. แพทได้เข้าพิธีปลงผมนาค และขอขมาคุณพ่อ–คุณแม่ ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยปลื้มปิติของคนในครอบครัว ก่อนจะมีพิธีอุปสมบทในช่วงเช้าของวันนี้ ได้ฉายาทางธรรมว่า “กิตติยโส” ซึ่งแปลว่า“ผู้มีเกียรติยศ น่ายกย่อง” ซึ่งหนุ่มแพทมีกำหนดบวชเป็นระยะเวลา 15 วัน
โดย “แพท พาวเวอร์แพท” ได้เปิดใจมาดังนี้
“วันนี้ก็มีความสุขนะครับ แล้วก็เดินทางมาถึงวันที่เราและครอบครัว ทุกๆ คน ผู้หลักผู้ใหญ่ของเราทุกคนก็เฝ้ารอวันนี้นะครับ เป็นวันที่เต็มไปด้วยสิ่งดีๆ เป็นความมีสิริมงคลและความโชคดีของเราที่ได้บวชตามที่เราตั้งใจ ไม่มีอุปสรรคหรือสิ่งขัดขวางใดๆ ทุกอย่างที่เราดำเนินการมา ที่เราเตรียมมาตลอดระยะเวลาหลายเดือนมันก็มาถึงวันไฟนอล รู้สึกว่าโชคดีด้วยที่ได้มาบวชที่นี่และมีพี่ๆ ผู้ใหญ่ และเพื่อนๆ มาร่วมบุญกันในวันนี้ครับ เรียกว่าเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งในชีวิตที่ลูกผู้ชายควรที่จะได้มาสัมผัสอย่างน้อยสักครั้งนึงในชีวิตครับ
ความพร้อมตอนนี้ 100% หมดทั้งด้านจิตใจ คือเรามีการเตรียมพร้อมมานานพอสมควรนะครับทั้งเรื่องของวิธีการ เรื่องของการท่องคำขอบวช หรือแม้กระทั่งการเคลียร์งานต่างๆ เรียกว่าทางโลกเราจัดการหมดสิ้นแล้วตอนนี้ และสภาพจิตใจก็พร้อม 100% ครับ ไม่มีอะไรกังวลครับ สงบมาก และต้องขอบคุณครอบครัวและทุกๆ ฝ่ายที่ให้การช่วยเหลือผมเป็นอย่างดี ให้ทุกอย่างมันราบรื่นและปราศจากอุปสรรค
ก็พยายามแบ่งเวลาซ้อมท่องบทสวด ซ้อมพิธีการต่างๆ เราต้องรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองต้องแบ่งเวลาให้ได้ แม้เราจะมีงานหลากหลายที่ต้องรับผิดชอบ แต่ผมจะพยายามแบ่งเวลาในการซ้อมบทสวด ในการซ้อมพิธีการต่างๆ ในการมาซ้อมที่วัดก็ต้องจัดสรรให้ดี อย่างช่วงเช้าของทุกวันระหว่างเวลาเดินทางไปทำงาน หรือแม้กระทั่งช่วงตื่นนอนก็จะสวดมนต์ จะทบทวนบทสวดก่อน อย่างน้อยตอนเช้าก็ 2 รอบต่อวันต้องมี ส่วนช่วงเย็นช่วงค่ำอย่างน้อยก็ 1-2 รอบ ทุกวันจะเป็นแบบนี้ตลอดเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง เพราะพอถึงเวลาในพิธีการจะไม่ใช่แค่ท่องบทสวดเท่านั้น ก็จะมีของขั้นตอนในการปฎิบัติอื่นๆ อีกมากมาย
ซึ่งจำเป็นที่จะต้องให้เวลาและให้ความสำคัญในการทบทวนอย่างมาก ก็ตั้งใจและจะทำให้ดีในเรื่องของการบวช และงานที่ได้รับมอบหมายในทางโลกด้วยครับ ตอนนี้เคลียร์งานไว้หมดแล้วครับ ก็จบสิ้น ไม่ได้มีอะไรค้างคา ผู้หลักผู้ใหญ่ เพื่อนๆ ก็เข้าใจ และยินดีอย่างมากในการบวชครั้งนี้ครับ ก็มีการเร่งการเข้าห้องอัด มีการทำอัลบั้มเต็ม มีเรื่องของเพลงคัฟเวอร์ ถ่ายมิวสิควิดีโอ 3 เพลง มีการเคลียร์งานสัมภาษณ์ต่างๆ ที่คั่งค้าง และงานช่วยเหลือทางกรมราชทัณฑ์เองก็ดี ก็เรียกว่าจัดการให้เสร็จสิ้นก่อนหน้านี้ไปแล้วครับ จะได้ไม่มีห่วงอะไร และหลังจากสึกมาก็ค่อยว่ากันอีกทีนึงครับ ซึ่งก็มีแพลนอยู่ในใจแล้วครับ
เดี๋ยวจะมีพิธีปลงผม ก็จะมีบทขอขมาที่พระอาจารย์ได้จดไว้ให้ท่องครับ ก็จะเตรียมเทียนแพ ธูปแพ พร้อมกรวยดอกไม้และพวงมาลัยขอขมาคุณพ่อคุณแม่และผู้ใหญ่ ครอบครัวที่นับถือหลายๆท่าน ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเองได้ตระเวนกราบขอขมาผู้ใหญ่ที่อาจจะไม่ได้เดินทางมาในวันนี้ไปหลายๆ ท่านแล้วครับ ทั้งพี่ๆ ที่นับถือ ผู้ใหญ่ที่ค่าย รวมถึงญาติๆ ทุกท่าน วันนี้ก็จะมีการขอขมารวมด้วย และจะมีการท่องบทขอขมาที่ทางพระอาจารย์ได้จดไว้ให้ครับ
คำพูดพิเศษที่อยากจะพูดขอขมากับคุณพ่อคุณแม่เหรอครับ ไม่มีนะครับ เพราะว่าผมไม่มีอะไรค้างคาใจมาตั้งแต่วันที่ออกมาจากในเรือนจำแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็น่าจะรวมอยู่ในบทขอขมาไว้เรียบร้อยแล้วครับ คุณพ่อคุณแม่ท่านก็ไม่ได้พูดอะไรครับ แต่เขามีความสุขแน่ๆ เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เฝ้ารอมาตลอดเวลา และคาดหวังกับเรามากว่าวันนึงจะมีวันนี้ และเราทำให้เขาได้เพราะนี่คือการบวชครั้งแรกเลยครับ และเป็นลูกชายคนเดียว ซึ่งชะตาชีวิตมันก็วนเวียนมาจนถึงตอนนี้ ได้บวชในตอนวัย 41 กว่าๆ ก็เป็นอะไรที่ถือว่าโชคดีแล้ว อย่างน้อยครั้งนึงในชีวิตของลูกชายได้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ภาคภูมิใจ และเป็นการสร้างสิริมงคลให้กับตัวเองด้วยครับ
ก็มีความสุขกันถ้วนหน้า เป็นอะไรที่สบายๆ และเป็นการหาความรู้ในทางธรรม ซึ่งจะนำมาประยุกต์ใช้ในทางโลกได้ และสามารถที่จะแนะนำใครต่อใครได้อีกมากมายครับ ในช่วงนี้ที่เราบวชอยู่อาจจะระยะเวลาไม่นาน แต่ก็จะพยายามปฎิบัติให้ดีที่สุดครับ ตั้งใจจะบวชประมาณ 15 วันครับ ก็ตั้งใจจะศึกษาธรรมะให้ดีที่สุด เพราะอยากจะมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตัวเองด้วย และแบ่งปันคนรอบข้างด้วย บอกครอบครัวด้วย บอกตัวเอง บอกเพื่อนๆ บอกแฟนคลับด้วย เพราะผมคิดว่ามีประโยชน์ และถ้าเราสามารถเป็นสื่อกลางหรือกระบอกเสียงให้คนทำความดีได้มากขึ้น มันก็เป็นสิ่งที่ดีให้กับสังคมประเทศชาติเราด้วย และเป็นบารมีที่มันเกิดขึ้นจากความดี ทุกคนก็ได้หมด เราก็ได้ ทุกคนที่ปฎิบัติก็ได้ ชีวิตเขาก็ดีขึ้น เราเห็นเราก็มีความสุข
คุณพ่อบอกว่าการที่ผมบวชเป็นการนำธรรมะมาให้พ่อกับแม่เหรอครับ ก็เป็นการมองในเชิงของเหตุและผล เชื่อว่าใครบวชคนนั้นก็ได้ เช่นเราบวชเราก็ได้ ได้เรียนรู้ธรรมะ ได้ซึมซับประเพณีได้นำสิ่งดีๆ เข้าตัว ทีนี้ถ้าเรานำไปบอกต่อไม่ว่าจะเป็นครอบครัว หรือคนรอบข้าง ญาติพี่น้องอะไรก็ดี สิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่สร้างบุญกุศลให้กับตัวเราเอง และคนที่นำไปปฎิบัติ ชีวิตเขาก็ดีขึ้น ทุกๆคนเลยไม่ใช่เฉพาะแค่คุณพ่อคุณแม่ มันเป็นเรื่องดีๆ ที่ทุกๆ คนมองเห็นครับ ถามว่ามีแพลนจะไปปฎิบัติธรรม จำวัดที่ต่างจัดหวัดมั้ย ไม่มีครับ ผมเชื่อว่าที่ไหนก็สามารถที่จะปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่นู่นที่นี่ ก็จะบวชที่วัดนี้และปฎิบัติธรรมที่นี่เลยครับ
พอบอกเพื่อนๆ ว่าจะบวช เขาก็ยินดี และให้กำลังใจด้วย ก็ตามประสาครับ เฮฮาเพื่อนฝูง กลัวเราจะไม่สึก (หัวเราะ) ก็มีถามกันอยู่ครับ หยอกเล่นกันในกลุ่มมากกว่า ผมก็แหย่ไป บอกว่าก็ไม่แน่นะ แต่ห่วงเจี๊ยบที่สุด กลัวเขาไม่มีรายได้ เพราะเปรมเขาก็ขายเสื้อผ้า มีอาชีพที่ 2 ที่ 3 อาจารย์ฟ้าเขาก็มีความสามารถหลายด้าน ฐานะทางบ้านก็ดีอยู่แล้ว แต่เจี๊ยบนี่ลาออกจากงานมาเพื่อเล่นดนตรีกับผมเลย ก็ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด เพราะเขาไม่ได้มีรายได้ทางไหน ก็บอกเพื่อนๆ ไปว่าสึกแหละ พอดีเดี๋ยวโควิดหาย คนไปดูคอนเสิร์ตได้ก็กลับไปเล่นดนตรีเหมือนเดิมไม่ต้องกลัว
เชื่อว่าหลังจากนี้พอพ้นจากการเป็นพระ ผมว่าชีวิตน่าจะดีขึ้นนะ และผมก็จะอุทิศบุญกุศลเผื่อแผ่ไปถึงทุกๆ คนด้วย ก็ต้องขอบคุณทุกๆ คนนะครับที่ส่งจิตอันกุศลมา ผู้หลักผู้ใหญ่หลายๆ ท่านอยากจะมาร่วมบุญ แฟนคลับหลายๆ กลุ่ม หลายๆ ด้านอยากจะมาอนุโมทนาด้วย ก็ขอบพระคุณมากนะครับ ก็ขอให้ได้บุญกลับไปเยอะๆ และนำธรรมะไปปฎิบัติในชีวิตประจำวันด้วย และชีวิตคุณก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ
เมื่อคืนก็นอนหลับดีครับ ผมก็หลับทุกวันแหละ (หัวเราะ) เตรียมพร้อมหมดแล้ว สบายๆ ครับเราเคยไปอยู่ในที่ที่มันยากลำบาก และมันไม่ได้สบายไปซะทุกอย่างมาแล้วตั้ง 17 ปี แค่นี้เป็นเรื่องที่สบายมาก มันไม่ได้มีอะไรกดดัน มันเป็นความยินยอมพร้อมใจของเราเองที่ต้องการอยู่แล้ว ไม่ได้มีใครบังคับให้เราต้องมาบวช เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องที่สมัครใจและสบายใจอย่างยิ่งครับ
สิ่งที่ผมอยากได้จากการบวชครั้งนี้นอกจากตอบแทนคุณพ่อแม่ ก็คือเรื่องธรรมะที่เราจะได้เรียนรู้นำมาปรับใช้ในชีวิตจริง ความสงบในใจ การได้หยุดนิ่ง พักเบรกจากกิจกรรมต่างๆ จากการงาน จากการใช้ชีวิตของมนุษย์ปุถุชนปกติ การวิ่งไปตามกระแส หรือแม้กระทั่งการหาเงินหาทองต่างๆ เราได้เบรก เราได้หยุดอยู่กับตัวเอง ได้คิดทบทวน ได้ศึกษาธรรมะ ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เราได้ในการฟื้นฟูร่างกายของเราเองด้วย ยกระดับจิตใจของเราเองด้วยครับ น่าจะเป็นจุดนี้ที่เห็นชัดเจนครับ
ในชีวิตที่ผ่านมาผมก็คงอาจจะไปทำอะไรให้ใครไว้หลายๆ ท่าน ทั้งโดยเจตนาหรือไม่ได้เจตนาก็ดี ก็อยากจะขออโหสิกรรมในการกระทำของผมเหล่านั้นด้วยนะครับ เพื่อความบริสุทธิ์ในการที่ผมจะบวชในครั้งนี้ ก็ขออโหสิกรรมกับทุกคนด้วยครับ”